Modal Verb คือ อะไร ตอบ Modal Verb คือ กริยาช่วยประเภทหนึ่งที่ทำให้กริยาแท้มีความหมายแตกต่างกันไป ได้แก่ can, could, shall, should, will, would, may, might, must, ought to, need และ dare คำกริยาประเภทนี้จะใช้นำหน้าคำกริยาแท้ซึ่งอยู่ในรูป V base form
They wil l buy a piece of land in Nan.
Yada can speak many languages.
อย่างไรก็ตาม ตำราไวยากรณ์บางเล่มจัดให้ modal verb อยู่ในกลุ่มของกริยาช่วย
ประเภทหนึ่งเรียกว่า modal auxiliary verb โดยไม่แยกเป็นประเภทต่างหาก
1. การใช้ modal verbs แสดง ‘ความเป็นไปได้’
Modal verbs ใช้แสดงได้ทั้ง ‘ความเป็นไปได้’ และ ‘แนวโน้มของความเป็นไปได้’
Modal verbs จึงแสดงได้ทั้ง ‘ความเป็นปัจจุบัน’ และ ‘ความเป็นอนาคต’
เราสามารถแบ่งระดับการใช้ modal verbs ที่แสดง ‘ความเป็นไปได้’ และ ‘แนวโน้ม
ของความเป็นไปได้’ ได้ 3 ระดับดังนี้
เป็นไปได้มาก เป็นไปได้ปานกลาง เป็นไปได้น้อย
(ในปัจจุบันหรือในอนาคต) (ในปัจจุบันหรือในอนาคต) (ในปัจจุบันหรือในอนาคต)
can may could
will might
must could
should
ส่วน would จะใช้เพื่อแสดงการจินตนาการหรือการคาดการณ์ถึงเหตุการณ์ในอนาคต
CAN, WILL และ MUST แสดงความเป็นไปได้มาก
เมื่อเราจะพูดหรือเขียนแล้วเรารู้สึกว่า สิ่งที่เราจะพูดหรือเขียนนั้น ‘มีความเป็นไปได้
มาก’ หรือ ‘มีแนวโน้มของความเป็นไปได้มาก’ เราก็จะใช้ can, will หรือ must ดังนี้
Can
Can มีความหมายว่า ‘สามารถ’ หรือ ‘มีโอกาสที่จะ’ เวลาเราใช้ can ความหมายทั้ง 2 นี้ก็จะปะปนกันไป แต่บางครั้งก็แยกกันชัดเจน อันขึ้นกับสถานการณ์การใช้ในขณะนั้น ดังนี้
–I can speak English.
ฉันสามารถพูดภาษาอังกฤษได้
–She can come.
เจ้าหล่อนสามารถ/มีโอกาสที่จะมาได้
–I can get soaked to the skin out there.
ฉันมีโอกาสที่จะเปียกจนชุ่มโชกได้ที่ข้างนอกนั่น
–He can’t further his study abroad.
เขาไม่มีโอกาสที่จะไปศึกษาต่อต่างประเทศ
Will
Will นอกจากจะใช้เพื่อแสดงว่า ‘จะมีบางสิ่งเกิดขึ้นในอนาคต’ ในกรณีของ Future Simple แล้ว เรายังใช้ will ได้ใน 2 กรณีดังต่อไปนี้
1. ใช้ will เพื่อแสดง ‘ความเป็นไปได้มาก’ หรือ ‘แนวโน้มของความเป็น
ไปได้มาก’
–There will be rain.
มีความเป็นไปได้มากที่ฝนจะตก
–It won’t be long.
มีความเป็นไปได้มากที่จะไม่นาน
–This box will contain that stuff.
มีความเป็นไปได้มากที่กล่องนี้จะบรรจุสิ่งนั้นไว้ได้
–Take this helmet or you will get fined.
เอาหมวกกันน็อคนี้ไปสวม มิฉะนั้นก็มีความเป็นไปได้มากที่คุณจะถูกปรับ
2. ใช้ will เพื่อแสดง ‘ความเต็มใจที่จะทำบางสิ่ง’ หรือ ‘คำสัญญาที่จะทำ
บางสิ่ง’
–I will remember you.
ฉันให้สัญญาว่าจะจดจำคุณไว้ในใจ
–I promise I will love you forever.
ผมให้สัญญาว่าจะรักคุณตลอดไป
–I’ll die for you.
ผมเต็มใจที่ตายเพื่อคุณ
A: You should click on this website.
คุณควรจะคลิ๊กเข้าไปที่เว็บไซตนี้
B: Yes, I will.
ตกลงครับ….ผมเต็มใจที่จะทำ
Must
Must ตรงกับคำในภาษาไทยว่า ‘ต้อง’ เราใช้ must เมื่อเรามั่นใจว่าบางสิ่ง ‘ต้อง’
เกิดขึ้น ดังนี้
–He must be her brother.
เขาต้องเป็นพี่ชายของเจ้าหล่อนแน่
–You must be joking.
คุณต้องกำลังล้อฉันเล่นแน่ๆ
–Your phone is so cool. It must be expensive.
โทรศัพท์ของคุณเจ๋งมาก มันต้องแพงแน่ๆเลย
–She has got determination, so she must get succeeded.
เจ้าหล่อนมีความมุ่งมั่น ดังนั้น เจ้าหล่อนต้องประสบผลสำเร็จ
MAY, MIGHT, COULD และ SHOULD แสดงความเป็นไปได้
ปานกลาง
ถ้าเรารู้สึกว่าสิ่งที่เราจะพูดหรือเขียนถึง ‘มีความเป็นไปได้ปานกลาง’ หรือ ‘มีแนว
โน้มของความเป็นไปได้ปานกลาง’ ให้เราใช้ may, might, could หรือ should
May, Might, Could
May, might และ could จะมีความหมายเหมือนกันว่า ‘อาจจะ’ เวลาเราใช้ เราจะเลือก
ใช้คำใดคำหนึ่งก็ได้ ดังนี้
–I may buy it.
ฉันอาจจะซื้อมัน
–She might go.
เจ้าหล่อนอาจจะไป
–It could happen.
มันอาจจะเกิดขึ้นได้
–They may/might/could be wrong.
พวกเขาอาจจะผิดก็ได้
Should
Should มีความหมายตรงกับคำในภาษาไทยว่า ‘น่าจะ’ หรือ ‘ควรจะ’ เราจึงใช้
should ในลักษณะดังต่อไปนี้
–The dog should be OK in a few days.
เจ้าตูบน่าจะหายเป็นปกติดีในอีก 2-3 วัน
–They are talking about what should be her next film.
พวกเขากำลังพูดคุยกันว่า อะไรน่าจะเป็นภาพยนตร์เรื่องต่อไปของเจ้าหล่อน
–Where is my phone? It should be in my purse.
โทรศัพท์ฉันไปอยู่ที่ไหนนี่? มันควรจะอยู่ในกระเป๋าถือฉันนี่น่า
–This word is spelled wrong. It should be ‘b-e-l-i-e-v-e’ not
‘b-e-l-e-i-v-e’.
คำนี้สะกดผิดนี่นา มันควรจะเป็น ‘b-e-l-i-e-v-e’ ไม่ใช่ ‘b-e-l-e-i-v-e’
–I’ve already sent my email. You should get it by now.
ฉันได้ส่งอีเมวล์ของฉันไปเรียบร้อยแล้ว เธอควรจะได้รับมันแล้วตอนนี้
COULD แสดงความเป็นไปได้น้อย
Could นอกจากจะใช้เพื่อแสดง ‘ความเป็นไปได้ปานกลาง’ หรือ ‘แนวโน้มของความ
เป็นไปได้ปานกลาง’ แล้ว เรายังใช้ could เพื่อ ‘กล่าวในเชิงเปรียบเทียบที่เหนือจริง’ หรือ
ใช้เพื่อแสดง ‘ความเป็นไปได้น้อย’ ดังนี้
–This movie is so fun. I could watch it one hundred times.
ภาพยนตร์เรื่องนี้สนุกมาก ฉันแทบจะดูมันได้นับร้อยครั้งเลยทีเดียว
–I’m starving. I could eat up all of these foods.
ฉันกำลังหิวจนตาลาย ฉันแทบจะกินอาหารเหล่านี้ได้จนหมดเลยทีเดียว
–You could win the prize.
คุณคงถูกรางวัลเข้าบ้างล่ะน่า
–I could swim across the river.
ฉันคงจะว่ายข้ามแม่น้ำได้
Would เป็นคำกลางๆที่ไม่แสดงถึงระดับของความเป็นไปได้ว่า ‘มาก’, ‘ปานกลาง’
หรือ ‘น้อย’ เราจึงใช้ would เมื่อเรา ‘จินตนาการ’ หรือ ‘คาดการณ์’ เกี่ยวกับเหตุการณ์
ต่างๆที่จะเกิดขึ้น ซึ่งเหตุการณ์นั้นๆอาจจะเกิดขึ้นหรือไม่เกิดขึ้นก็ได้ ดังนี้
–There would be loss of money. (The Guardian/The Nation)
คาดการณ์ได้ว่าจะเป็นการสูญเปล่าทางด้านการเงิน
–I imagine that she would forgive me someday.
ฉันจินตนาการว่าเจ้าหล่อนจะให้อภัยฉันวันหนึ่งข้างหน้า
–I would sell it, but I’m not its owner.
ฉันจะขายมัน แต่ฉันก็ดันไม่ใช่เจ้าของมันซะอีก
–That incident would have link with terrorism more or less.
เหตุการณ์นั่นน่าจะมีความเกี่ยวข้องกับการก่อการร้ายไม่มากก็น้อย
–I believe that she would marry him.
ฉันเชื่อว่าเจ้าหล่อนน่าจะแต่งงานกับเขา
การใช้ COULD, MAY HAVE และ WOULD แสดงความ
เป็นอดีต
เราสามารถใช้ could, may have และ would แสดงความเป็นอดีตได้ดังนี้
การใช้ could แสดงความเป็นอดีต
เราใช้ could แสดงความเป็นอดีตของ can ได้ดังต่อไปนี้
–She said she could do that.
–I sat next to her. I could smell her scent.
–He could read and understand English when he was only five.
–Both of us had no match on us. So we couldn’t light the candles.
การใช้ may have/might have แสดงความเป็นอดีต
เราใช้ may have หรือ might have แสดงความเป็นอดีตของ may หรือ might ได้ดังต่อไปนี้
–He said he may have bought it.
A: This morning he didn’t call me.
B: He might have been busy doing his homework.
การใช้ would แสดงความเป็นอดีต
เราใช้ would แสดงความเป็นอดีตของ will ได้ดังต่อไปนี้
–He told me that he would come.
2. การใช้ modal verbs แสดง ‘มารยาททางสังคมต่างๆ’
2.1 การขออนุญาต
เราใช้ Can/Could, May/Might, Would ในการขออนุญาต ดังนี้
–Can I take this?
ผมขออนุญาตเอาสิ่งนี้ไปได้ไหม?
–Could I ask a question?
ผมขออนุญาตถามคำถามหนึ่งคำถามได้ไหม?
–May I come in?
ผมขออนุญาตเข้าไปได้ไหม?
–Might I make a comment?
ผมขออนุญาตแสดงความคิดเห็นได้ไหม?
–Would you mind if I smoke?
คุณจะว่าอะไรไหม ถ้าผมจะสูบบุหรี่?
การให้อนุญาต
เราใช้ Can, May ในการให้อนุญาต ดังนี้
–You can go now.
ฉันอนุญาตให้เธอไปได้แล้ว
–All pupils may not take mobile phones into the exam rooms.
นักเรียนทุกคนไม่ได้รับอนุญาตให้นำโทรศัพท์เข้าไปในห้องสอบ
2.2 การขอให้ช่วย
เราใช้ Can/Could, May/Might, Will, Would ในการขอให้ช่วย ดังนี้
–Can you help me with this luggage?
ช่วยดิฉันเอากระเป๋าเดินทางนี้ไปหน่อยได้ไหมคะ?
–Could you please help my daughter?
ขอความกรุณาช่วยลูกสาวของดิฉันด้วยคะ?
–May you carry these shopping bags for me?
ช่วยดิฉันถือถุงเหล่านี้หน่อยได้ไหมคะ?
–Might you open your trunk, please?
ช่วยกรุณาเปิดฝากระโปรงท้ายรถด้วยครับ?
–Will you bring this in?
ช่วยเอาเจ้าสิ่งนี้เข้าไปข้างในด้วยคะ?
–Would you pass me that sauce?
ช่วยส่งซ็อสนั่นให้ดิฉันหน่อยได้ไหมคะ?
2.3 การเสนอตัวเพื่อช่วย
เราใช้ Can/Could, May/Might ในการเสนอตัวเพื่อช่วย ดังนี้
–Can I help you?
ให้ผมช่วยนะครับ?
–Could I make you a cup of coffee?
น้องชงกาแฟให้นะคะ?
–May I help?
ให้ผมช่วยนะครับ?
–Might I give you some advice?
ให้ผมแนะนำอะไรหน่อยได้ไหมครับ?
2.4 การถามถึงความต้องการของผู้อื่น
เราใช้ Will, Would เพื่อถามถึงความต้องการของผู้อื่น ดังนี้
–Will you want anything else?
คุณต้องการอะไรอีกไหมครับ?
–Would you like a cup of coffee?
จะรับกาแฟซักถ้วยไหมคะ?
2.5 การบอกถึงความต้องการของเรากับผู้อื่น
เราใช้ Will, Would เพื่อบอกถึงความต้องการของเรากับผู้อื่น ดังนี้
–I will have a piece of cake.
ผมขอสั่งเป็นขนมเค็กชิ้นหนึ่ง
–I would like a dish of roasted chicken.
ผมขอสั่งเป็นไก่ย่างหนึ่งจาน
2.6 การขอคำแนะนำ
เราใช้ Should ในการขอคำแนะนำ ดังนี้
–Should I wear this dress?
ฉันควรจะใส่ชุดนี้ไหม?
การให้คำแนะนำ
เราใช้ Should ในการให้คำแนะนำ ดังนี้
–You should go to see the doctor.
เธอควรจะไปหาหมอนะ
2.7 การเชื้อเชิญ
เราใช้ Will ในการเชื้อเชิญ ดังนี้
–Will you come to my party?
ขอเชิญคุณมางานเลี้ยงสังสรรค์ของดิฉันด้วยค่ะ?
2.8 การออกคำสั่ง
เราใช้ Will ในการออกคำสั่ง ดังนี้
–You will be next.
หนูเป็นคนต่อไป
ความเห็นล่าสุด