Noun คือ อะไร

เมษายน 10, 2015
By

noun คืออะไรNoun คือ อะไร ตอบ  Noun คือ“คำนามที่ใช้เรียกชื่อคน สัตว์ สิ่งของ และนามธรรม”

แบ่งออกเป็นประเภทต่าง ๆ ได้แก่ คำนามเอกพจน์และพหูพจน์ คำนามทั่วไปและคำนามเฉพาะ คำนามที่เป็นรูปธรรมและนามธรรม คำนามนับได้และนับไม่ได้ และคำนามที่กล่าวถึงสิ่งต่าง ๆ ในลักษณะเป็นกลุ่ม

ชนิดของคำนาม  คำนามอาจแบ่งออกได้เป็นประเภทต่าง ๆ ดังนี้

1) Singular Noun คือ “คำนามที่เป็นเอกพจน์ หมายถึง เพียงสิ่งเดียว”

เช่น ball, man, cat เป็นต้น (ไม่ต้องใส่ -s ตามหลัง)

2) Plural Noun คือ “คำนามที่เป็นพหูพจน์ หมายถึง สิ่งที่ระบุจำนวนสองสิ่งขึ้นไป”

เช่น  houses,fans,books เป็นต้น (ต้องใส่ -s ตามหลังเสมอเพื่อบ่งบอกว่ามีจำนวนสองสิ่งขึ้นไป)

**** หลักการเติม -s เพื่อระบุว่า เป็น Singular Noun หรือ Plural Noun

 

SINGULAR PLURAL REMARKS
 (1)  one bird  two bird s  คำนามส่วนใหญ่มักเติม – s เมื่อเป็นพหูพจน์
 (2)  lady  lad ies  ลงท้ายด้วยพยัญชนะ + – y ให้เปลี่ยน y เป็น i แล้วเติม – es
 (3)  toy  toy s  ลงท้ายด้วยสระ + – y เติม – s
 (4)  life  li ves  ลงท้ายด้วย f/fe ให้เปลี่ยน f/fe เป็น v แล้วเติม – es
 (5)  dish  dish es  ลงท้ายด้วย – sh, -ch, -ss, -x
เติม – es
 (6)  tomato  tomato es          ลงท้ายด้วยพยัญชนะ + – o เติม- es
 (7)  radio  radio s  ลงท้ายด้วยสระ + – o เติม – s
 (8)  ox  ox en  เติม – en
 (9)  child  child ren  เติม – ren
 (10) woman  wom e n  เปลี่ยนรูปสระ (คำนี้เปลี่ยนการออกเสียงด้วยจาก ‘ วู มั่น ‘ เป็น ‘ วี มิ่น ‘)
 (11) memorandum  memorand a  เป็นคำยืมจากภาษาอื่น รูปพหูพจน์
ใช้ตามภาษาเดิม
(12) deer deer ไม่เปลี่ยนรูป เมื่อเป็นพหูพจน์

 

 

 

 

 

นอกจากนี้ คำนามบางคำจะเป็นพหูพจน์เสมอ เช่น shoes, eyeglasses, scissors, trousers  เป็นต้น แต่คำนามบางคำถือเป็นคำนามเอกพจน์ แม้มีรูปเป็นพหูพจน์ คือ เติม – s เช่น news, mathematics, measles ( โรคหัด) เป็นต้น

3)  Common Noun คือ “คำนามทั่วไป” เช่น boy, girl, man เป็นต้น และ

4) Proper Noun คือ “คำนามที่เป็น” ชื่อเฉพาะอาจเป็นคน สัตว์ สิ่งของ หรือสถานที่ เช่น Jame, Bangkok, USA เป็นต้น จะสังเกตว่า proper noun จะขึ้นต้นด้วยอักษรตัวใหญ่เสมอ

5)  Concrete Noun คือ “คำนามที่เป็นรูปธรรม” หรือคำนามวัตถุเป็นสิ่งที่จับต้องได้ เช่น doctor, house, car,  เป็นต้น

6) Abstract Noun คือ “คำนามที่เป็นนามธรรม” หรืออาการนาม เช่น idea, happiness, taste เป็นต้น

7)  Countable Noun คือ  “คำนามนับได้” คืออะไรก็แล้วแต่ที่นับได้ เช่น teacher, bird, pen เป็นต้น

8) Uncountable Noun คือ “คำนามนับไม่ได้”คืออะไรก็แล้วแต่ที่นับไม่ได้ เช่น water, health, honesty เป็นต้น และคำเหล่านี้จะไม่มีรูปพหูพจน์

6)  Collective Noun คือ “คำนามที่กล่าวถึงสิ่งต่าง ๆ ในลักษณะเป็นกลุ่ม” เช่น team, army, committee เป็นต้น

หน้าที่ของ Noun

1) Subject คือ “ประธาน” เช่น Jack go to school.

2) Complement คือ “ส่วนเสริม” หมายถึง คำที่อยู่ในภาคแสดงซึ่งทำให้ความหมายของคำกริยาสมบูรณ์ขึ้น ส่วนเสริมนี้อาจแบ่งออกเป็น 4 ประเภทคือ

2.1 Direct Object คือ “กรรมตรง” เช่น He opened the door.

2.2 Indirect Object คือ “กรรมรอง” เช่น Simon gave his uncle a dirty look.

2.3 Subject Complement คือ “ส่วนเสริมประธาน” เช่น Brandon is a gifted athlete.

2.4 Object Complement คือ “ส่วนเสริมกรรม” เช่น I found the guard sleeping.

3) Object of a Preposition คือ “กรรมตามหลังบุพบท” เช่น At the kitchen counter.

4) Appositive คือ “คำนามตัวที่สองที่ขยายความคำนามตัวแรกหรือเป็นการเรียกขานอีกชื่อหนึ่ง” เช่น The insect, a cockroach, is crawling across the kitchen table

 

study square sf

Share and Enjoy

  • Facebook
  • Twitter
  • Delicious
  • LinkedIn
  • StumbleUpon
  • Add to favorites
  • Email
  • RSS

Comments

comments

Tags: , , , , , ,

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องที่ต้องการถูกทำเครื่องหมาย *


Line ID : krittapas_st

พฤศจิกายน 2024
พฤ อา
« ต.ค.    
 123
45678910
11121314151617
18192021222324
252627282930  
                       

Credit ของ Study Square Co.,Ltd.

มหาวิทยาลัยใน AUS

สถาบันใน Sydney AUS

สถาบันใน Melbourne AUS

สถาบันใน Brisbane AUS



เว็บเพื่อนบ้าน

Line ID : krittapas_st

Blog